แปลทิ้งไว้นานแล้วจ้า แต่เพิ่งจะได้มีเวลาเกลาอีกที เลยเอามาลงซะเลย ฮา
Kanji
奇麗な空が見えた
月の無い夜だった
闇が光を帯びたように見えた
その星はまだ白く
今すぐ届きそうで
手を伸ばしたら
冬の風が吹いた
僕等が行くその場所はきっと嵐になるんだろう
誰もが望むもの
欲しがって進む限り
夢の大地に立って
君の瞳に合って
僕等は何を奪い
何を探しに行くんだろう
祈りはそこにあって
ただ君の手を取って
轟く未来 草の海
天を統(す)べる日まで
君は奇麗な声で
空の嘆きを詠う
僕は光の粒さえ蹴散らして
それでも二人だけに
見えるものがあるなら
空が落とす雫を受け止めて
きっと明日はもう少し
高く遠く飛べるだろう
夢よ遊べ今は
幻が君の真実
憧れだけがあって
その声が呼ぶ方へ
僕等は誰に出会い
何を失くして泣くんだろう
賭けるものも無くて
ただ君の手を取って
響けよ未来 星のうた
空を手に入れたい
夢の謡(うたい)
遠い空には光る
君の合図で夜明けが始まる
Romanji
kirei na sora ga mieta
tsuki no nai yoru datta
yami ga hikari wo obita you ni mieta
sono hoshi wa mada shiroku
ima sugu todokisou de
te wo nobashitara
fuyu no kaze ga fuita
bokura ga yuku sono basho wa kitto arashi ni narun darou
dare mo ga nozomu mono
hoshigatte susumu kagiri
yume no daichi ni tatte
kimi no hitomi ni atte
bokura wa nani wo ubai
nani wo sagashi ni yuku n darou
inori wa soko ni atte
tada kimi no te wo totte
todoroku mirai kusa no umi
ten wo suberu hi made
[akesti ola
atesti mortia mia
sola mia]
kimi wa kirei na koe de
sora no nageki wo utau
boku wa hikari no tsubusae kechirashite
sore demo futari dake ni
mieru mono ga aru nara
sora ga otosu shizuku wo uketomete
kitto ashita wa mou sukoshi
takaku tooku toberu darou
yume yo asobe ima wa
maboroshi ga kimi no shinjitsu
akogare dake ga atte
sono koe ga yobu hou he
bokura wa dare ni deai
nani wo nakushite naku n darou
kakeru mono mo nakute
tada kimi no te wo totte
hibike yo mirai hoshi no uta
sora wo te ni iretai
yume no utai
tooi sora ni tomoshibi wa hikaru (sola)
kimi no aizu de yoake ga hajimaru
[mistia, sortiya mia]
English
I saw a moonless night
in the beautiful sky
I saw the darkness, seeming to wear light
Those stars are still white
now, as if they were reaching
if I raised my hands
the winter wind blew
The place we’re going will surely become a storm
as long as we go ahead desiring
what everyone desires
Standing in the land of dreams
meeting your eyes
what are we stealing?
what are we searching for?
meeting prayers over there
simply holding your hand
the roaring future, the sea of grass
until the day we control heaven
with a pretty voice
you sing the grief of the sky
I kick even grains of light
So if there is something
only we can see
accepting the drops falling from the sky
Surely tomorrow we’ll fly
a little higher and further
play, dreams! now
illusions are your truth
Meeting only yearning
who will we meet with
in the direction that voice is calling from?
what will lose and cry for?
Not having anything to risk
I simply hold your hand
resound, future! I want to grab
the song of the stars
the chanting of dreams
In the distant sky, the light shines (sola)
with your signal, daybreak starts
Translate
ฉันเห็นท้องนภาอันสวยงาม
ในค่ำคืนที่ไร้แสงจันทรา
ราวกับว่าความมืดทมิฬผสมปนไปกับแสงสว่าง
เหตุใด...เหล่าดวงดารายังคง...
ส่องแสงขาวนวลในยามนี้
เมื่อฉันยื่นมือออกไป
สายลมหนาวก็เริ่มพัด
เราจะก้าวไปยังสถานที่อันมีพายุอย่างแน่นอน
มันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ตราบใดที่ยังเดินหน้าต่อไป
ความปรารถนาจะไม่สูญสลาย
ฉันตื่นขึ้นท่ามกลางดินแดนความฝันของตนเอง
ก็ต้องพบกับดวงตาของเธอ
เรามีสิ่งที่ได้ขโมยมา
อะไรคือสิ่งที่เราค้นหากัน
ความพิศวงได้บังเกิดแก่ตัวเอง
อ้อนวอนต่อที่แห่งนั้น ขอเพียงแค่ฉันได้จับมือเธอ
อนาคตกำลังส่งร่ำร้องสู่มหาสมุทรแห่งติณชาติ
จนกว่าจะถึงวันที่เราจะควบคุมฟ้าสวรรค์ได้
[พายุพัดหนักถาโถมเข้ามา
ฉันยังคงเดินทางไปให้ถึงดินแดน...
ที่ไม่อาจะเอื้อมถึง]
เธอคร่ำครวญความเศร้าโศกา
ไปถึงท้องนภาด้วยเสียงอันไพเราะ
ฉันต่อต้านมันออกไป แม้แต่ละอองแสงเล็กๆก็แตกกระจาย
ถึงกระนั้นมีเพียงสิ่งเดียวที่พวกเราได้เห็น
เราจะยอมรับมันได้หรือ
เหล่าหยาดน้ำตาจากฟ้าที่ถูกปล่อยให้ร่วงหล่นลงมา
เราจะโบยบินไปในวันข้างหน้า
สิ่งเล็กๆที่สำคัญกว่าสิ่งใดอันไกลห่าง
“ความฝันและความบันเทิงนั้นคือภาพมายา”
เธอเชื่อมั่นเช่นนั้น
ขณะที่เราก้าวไปต่อ
ด้วยเสียงแห่งความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียว
สิ่งที่เราสูญเสีย
เมื่อได้พบใครสักคนคือสิ่งใด?
หากไม่มีสิ่งใดให้เสียอีกแล้ว
ขอเพียงแค่ให้ฉันได้จับมือเธอ
ทำให้มันก้องกังวานที บทกวีดวงดาราแห่งอนาคต
ให้ฉันได้ไปถึงผืนฟ้าด้วยเถอะ
จะขับขานบทเพลงแห่งห้วงฝันต่อไป
ในฟากนภาอันไกลโพ้น ที่แสงสาดเรืองรอง(ผ่านเงาทมิฬ)
รุ่งอรุณที่ฉายขึ้นมา นั่นคือสัญญาณของเธอ
[มุ่งสู่...ทางแห่งอนาคต]